เกมนัดปิดฤดูกาลของพรีเมียร์ลีกปีนี้เต็มไปด้วยความกดดัน เมื่อทั้งสองทีมยังมีโอกาสคว้าสิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่เป็นเชลซีที่แสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาดในช่วงเวลาสำคัญ พวกเขาเฉือนเอาชนะไปได้อย่างหวุดหวิด ไฮไลท์ฟุตบอล เร็วที่สุด ฟอเรสต์ 0–1 เชลซี ฮีโร่ของทีมในเกมนี้คือ เลวี คอลวิลล์ กองหลังดาวรุ่งที่โหม่งทำประตูชัยเพียงลูกเดียวของแมตช์ กลายเป็นประตูสำคัญที่อาจเปลี่ยนชะตาของทีมให้ได้ลุยเวทียุโรปฤดูกาลหน้า
ไฮไลท์ฟุตบอล เร็วที่สุด ฟอเรสต์ 0–1 เชลซี ลุ้นตั๋ว UCL จนหยดสุดท้าย
ก่อนเริ่มเกม ทั้งสองทีมต่างยังมีโอกาสเบียดแย่งพื้นที่ห้าอันดับแรกของตาราง ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการการันตีตั๋วยุโรป ขอเพียงแค่จด้วยสกอร์เสมอกัน แต่สุดท้ายเป็นทีมของเอ็นโซ มาเรสก้า ที่สามารถเก็บสามแต้มล้ำค่าและทำภารกิจได้สำเร็จ แม้เกมจะเต็มไปด้วยแรงกดดัน แต่เชลซีก็แสดงให้เห็นถึงความนิ่งและความเฉียบคมในจังหวะสำคัญ จนสามารถคว้าชัยชนะที่ต้องการ และยึดตำแหน่งหัวตารางไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง
เปิดเกมอืด! ฟอเรสต์มีโอกาสเด่นเพียงลูกโหม่งของคริส วูด
แม้จะออกสตาร์ทได้ดีในฐานะเจ้าถิ่น แต่เกมในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของฟอเรสต์กลับไม่สามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลมากนัก รูปเกมค่อนข้างนิ่งและไม่มีจังหวะหวาดเสียวมากมาย โอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดในช่วง 29 นาทีแรก กลับเป็นเพียงลูกโหม่งของ คริส วูด กองหน้าตัวเป้าของเจ้าบ้าน ซึ่งก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ เกมจึงยังคงเสมอแบบไร้สกอร์ในช่วงต้นเกม
เนโต้พลาด! ฟอเรสต์สวนกลับหวิดขึ้นนำก่อนพักครึ่ง
เกมในช่วงท้ายครึ่งแรกเต็มไปด้วยจังหวะที่ทำให้แฟนบอลได้ลุ้นกันอย่างจดจ่อ โดยเฉพาะจังหวะที่ เปโดร เนโต้ เกือบทำให้เชลซีขึ้นนำเมื่อได้บอลจาก โคล พาล์มเมอร์ หลุดเข้าเขตโทษแบบมีพื้นที่ แต่กองหน้าชาวโปรตุเกสกลับยิงข้ามคานจากระยะเผาขน ไม่กี่นาทีก่อนหมดครึ่ง ฟอเรสต์ไม่ยอมตกเป็นฝ่ายกดดันฝ่ายเดียว โอลา ไอน่า เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาอย่างแม่นยำให้ คริส วูด โฉบเข้าชาร์จ ทว่าการจับบอลแรกของวูดไม่เฉียบคมพอ ทำให้โอกาสทองหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย
เชลซีเปิดฉากครึ่งหลังดุดัน ฟอเรสต์พลาดซ้ำจนเสียประตู
หลังจากครึ่งแรกที่ไร้ความเฉียบคม ราคาบอลวันนี้ เชลซีกลับมาลงสนามในครึ่งหลังด้วยพลังที่แตกต่าง พวกเขาเร่งเกมรุกทันทีและสามารถเจาะตาข่ายได้ภายในไม่กี่นาที ฟอเรสต์มีจังหวะผิดพลาดในแนวรับหลายครั้ง ทั้งการเคลียร์บอลไม่เด็ดขาด และการจัดตำแหน่งแนวรับที่ขาดความรัดกุม เปโดร เนโต้ ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดนั้นได้อย่างชาญฉลาด เขาตัดบอลได้ก่อนจ่ายย้อนคืนให้ มาตซ์ เซลส์ ผู้รักษาประตู ก่อนต่อให้ เลวี คอลวิลล์ ยิงโล่ง ๆ ที่เสาไกลแบบไม่มีตัวประกบ ส่งเชลซีขึ้นนำอย่างรวดเร็ว
ฟอเรสต์เดินเกมรุกหวังตีตั๋ว UCL แต่ขาดความเฉียบคม
เมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องยิงสองประตูเพื่อรักษาโอกาสจบในท็อปไฟว์และคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก ฟอเรสต์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดเกมรุกใส่เต็มที่ แต่ความพยายามยังไม่แปรเปลี่ยนเป็นประตู แอนโธนี่ เอลานกา ได้จังหวะยิงแบบมีลุ้น แต่บอลก็ยังไปติดเซฟผู้รักษาประตู ขณะที่ โอลา ไอน่า ลองเสี่ยงยิงไกลหวังสร้างความแตกต่าง แต่ลูกยิงก็หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
เชลซีปิดเกมเยือกเย็น รับแน่นหยุดฟอเรสต์ไว้ได้
ช่วงท้ายเกม ฟอเรสต์ยังพยายามอย่างสุดความสามารถในการตีเสมอ แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของเชลซีได้เลย โดยเฉพาะเมื่อ โรเบิร์ต ซานเชซ เซฟลูกยิงของ แอนโธนี่ เอลันกา ได้อย่างง่ายดายในนาทีที่เหลือประมาณ 15 นาที เอ็นโซ มาเรสกา ตัดสินใจเน้นความรัดกุม สั่งเปลี่ยนแผนเป็นแนวรับ 5 คนเพื่อปิดเกมโดยสมบูรณ์ แม้ว่า คริส วูด จะมีโอกาสทองในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่ก็ยิงหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ขณะที่จังหวะบุกอื่น ๆ ของฟอเรสต์ก็ถูกแนวรับของเชลซีจัดการได้ทั้งหมด
แม้จะตั้งใจเก็บชัยชนะในบ้านเพื่อส่งท้ายฤดูกาลอย่างสวยงาม แต่ฟอเรสต์กลับไม่สามารถสร้างแรงกดดันให้กับเชลซีได้มากพอ ทำให้ต้องพบกับความผิดหวังเล็กน้อยต่อหน้าแฟนบอลเจ้าถิ่น อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนี้ก็ยังถือว่าประสบความสำเร็จ เมื่อพวกเขาจบอันดับที่ 7 ของตาราง และได้ตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ฤดูกาล 2025–26 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของสโมสรในเวทียุโรป
ติดตามไฮไลท์และผลวิเคราะห์บอลคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่